วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดอำนาจเจริญ (อำเภอ ชานุมาน )

อำเภอชานุมาน ชายแดนแห่งเดียว ป่าเขียวแสนสวย งามห้วยแก่งหิน แผ่นดินน่าอยู่ ชมหมู่ภูไท ท่องไป...ชานุมาน
 
 
 
 
น้ำตกตาดใหญ่เป็นน้ำตก 2 ชั้น ที่สวยงามขวางกั้นล้ำ้น้ำห้วยทม น้ำตกกว้าง 50 เมตร แต่ละชั้นสูงประมาณ 2.5 เมตร ด้านล่างเป็นหาดทรายบริเวณสองฝั่งเต็มไปด้วยป่าไม้ธรรมชาติ อยุ่ระหว่างบ้านนามงามและบ้านหินกอง





น้ำตกคันแท เป็นน้ำตกที่มีชื่อเรียกตามลำห้วยคันแท น้ำตกกว้าง 20 เมตร สูง 3 เมตร น้ำถ้ำอยู่ภายใต้น้ำตกสามารถเข้าไปเดินหรือนั่งได้สบาย อยู่บริเวณเดียวกันกับน้ำตาดใหญ่





น้ำตกห้วยทราย ห่างจากบ้านห้วยฆ้องประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ใสสะอาดไหลผ่านโขดหินเป็นบริเวณกว้าง เป็นน้ำตกที่สวยงามเหมาะกับการท่องเที่ยว


 


ภูถ้ำพระจากอำเภอชานุมานไปทางทิศตะวันตก ตามเส้นทาง รพช.อจ.3012 ประมาณ 17 กิโลเมตร พื้นที่ตำบลคำเขื่อนแก้ว มีภูเขาที่ทอดยาว ภูมิประเทศที่สวยงามบนยอดเขามีลานหินกว้าง ใต้หน้าผามีถ้ำ ภายในมีพระพุทธรูปโบราณและพระพุทธรูปปั้น





ภูถ้ำบึ้งตามเส้นทาง รพช.อจ.3021 ถัดจากภูถ้ำพระอยู่บ้านคำเดือย ตำบลคำเขื่อนแก้ว บริเวณวัดตั้งอยู่เนินเขาเตี้ย ๆ หลังศาลาการเปรียญมีหน้าผา ข้างใต้มีถ้ำขนาดใหญ่ ในสมัยก่อนพบค้างคาวจำนวนมาก จึงตั้งชื่อว่า "ถ้ำบึ้ง" ซึ่งแปลว่าค้างคาว เส้นทางขึ้นภู มีลานหินกว้างและจะพบบ่อน้ำที่มีน้ำขังตลอดปี ซึ่งปากบ่อจะมีขนาดเล็กแต่ภายในมีลักษณะคล้ายโอ่ง ถัดไปจะพบป้อมปราการ ซึ่งเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก


 


ภูคำเดือยตามเส้นทาง รพช.อจ.3021 ถัดจากถ้ำพระ บนเทือกเขาภูคำเดือย มีทิวทัศน์ที่งดงาม ร่องหินธรรมชาติขนาดใหญ่ที่เหมาะสมำหรับการท่องเที่ยวทางธรรมชาต




ดานกระต่ายเป็นลานหินขนาดใหญ่บนเนื้อที่หลายร้อยไร่ ลาดด้วยหินดานประหนึ่งเทคอนกรีตล้อมรอบด้วยป่าไม้นานาพันธุ์ เช่น กอหญ้ามุ้งกระต่าย และต้นข่อยหินที่ขึ้นตามธรรมชาติ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของภูจันทร์ที่งดงาม


 


จุดชมทิวทัศน์ริมโขงอยุ่บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลชานุมาน เป็นจุดที่มีการข้ามชายแดนไปมาระหว่าง ชาวไทย-ลาว สามารถมองเห็นดอนชะโนด ซึ่งเป็นเกาะขนาดใหญ่กลางลำน้ำโขง ซึ่งมีประชากรลาวอาศัยอยู่ประมาณ 60 หลังคาเรือน
อำเภอชานุมาน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอยู่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอ ในตอนเย็นชมทัศนียภาพสองฟากฝั่งไทย-ลาว สวยงามมาก เหมาะแก่การพักผ่อนยิ่งนัก





เขาคีรีวงกตภูมะโรง ภูมะโรงเป็นภูดินขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางระหว่างบ้านเมืองเก่า บ้านคำแก้ว บ้านคำเดือย บ้านเหล่าแก้วแมง บ้านสงยาง ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอชานุมาน เป็นแหล่งที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม เพราะมีผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ปกคลุม มีสัตว์ป่านานาชาติให้ได้ชม ที่สำคัญจะมีถ้ำดานหิน โขดหิน และหน้าผาที่สูงสลับซับซ้อนสวยงามเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก กล่าวคือ โขดหินที่เรียงตัยกันอยู่บางแห่งจะเป็นชะง่อนออกมา บ้างก้อนสูงขึ้นไป 15 เมตร และช่องระหว่างตรงกลางเป็นร่องดินลึกลงไปเป็นหน้าผาต้องทำสะพานข้ามจึงจะเดินไปโขดหินอีกก้อนได้ เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่มีมานับพันปี





แก่งหินขันลักษณะของแก่งหินขัน คือเป็นแก่งหินตั้งอยู่กลางบริเวณแม่น้ำโขง ติดชายแดนไทย-ลาว อำเภอชานุมาน มีลักษณะเป็นร่องหินที่เกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำเป็นเวลาหลายพันปี ซึ่งมีลักษณะเหมือพานหรือขัน ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศนิยมไปเที่ยวชมความสวยงามของแก่งนี้เป็นจำนวนมาก และเป็นแหล่งซื้อขายปลาแม่น้ำโขง ซึ่งสร้างรายได้ให้แก่ชาวอำเภอชานุมานเป็นอย่างมาก





แก่งต่างหล่างสถานที่ตั้ง ตั้งอยู่บ้านศรีสมบูรณ์ ตำบลชานุมาน อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 80 กิโลเมตร และห่างจากตัวอำเภอชานุมานประมาณ 1 กิโลเมตร ลักษณะของแก่งต่างหล่างคือเป็นโขดหินขระขระอยู่ริมแม่น้ำโขง เป็นหินศิลาแลงคล้ายชามหรืออ่าง เป็นแอ่งเป็นคุ้ง ในฤดูฝนน้ำจะท่วม เนื่องจากแม่น้ำโขงมีระดับน้ำสูงจึงท่วมแอ่ง หน้าแล้งแอ่งน้ำจะมีความสวยงามมาก เหมาะเป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ คำว่า "ต่างหล่าง" เป็นภาษาถิ่น บอกถึงลักษณะของภาชนะที่มีลักษณะกว้างและตื้น





อุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัวภูสระดอกบัวอยู่บริเวณรอยต่อกับอุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว ในพื้นที่บ้านคำเดือย บ้านดงยาง บ้านเหล่าแก้วมอง ตำบลคำเขื่อนแก้ว บ้านหินสิ่ว ตำบลชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ เขตอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร เขตอำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร เป็นเทือกเขายาวเหยียดหนาทึบด้วยป่าไม้เบญจพรรณ เช่น ยาง มะค่า ตะแบก แดง กระบาก ชิงชัน ประดู่ ฯลฯ แต่เดิมเป็นป่าที่อุดมไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ แสงแดดส่องไม่ถึงพื้นดิน มีสัตว์ป่า เช่น ช้าง หมี เสือ เลียงผา กวาง กระทิง และหมูป่าอยู่ชุกชุม ปัจจุบันไม้ได้ถูกทำลายจนเหลือสภาพป่าไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และสัตว์ป่าได้สูญพันธ์เกือบหมดแล้ว
ภูสระดอกบัวมีตำนานเล่าว่า แต่เดิมเป็นที่อยู่ของผีบังบด มีต้นยาสูบขนาดใหญ่เท่าขาคน ต้นสมุนไพรวิเศษหลายชนิดขึ้นอยู่เต็ม ท้าวชมภู ผู้ใหญ่บ้านคำเดือย ได้พาชาวบ้านไปหาของป่าเกิดหิวน้ำระหว่างเดินทางหาน้ำดื่มไ่ม่พบเลย จึงตั้งสัจจะอธิษฐานต่อเจ้าป่าเจ้าเขาขอให้พบน้ำดื่ม หลังจากเดินไปอีกสักครู่ก็พบแอ่งหินหลายแอ่ง มีน้ำใสขังอยู่เต็ม มีหลายขนาดตั้งแต่ความก้าวไม่ถึงวาและมากกว่าวา มีหลายแอ่งน้ำลึกท่วมศรีษะคน มีดอกบัวแดงขึ้นชูรอรับแสงอาทิตย์สวยงามยิ่งนัก ท้าวชมภูจึงชวนลูกบ้านดื่ม ปรากฏว่ามีกำลังขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ ความกระหายน้ำไปอย่างปลิดทิ้ง บรรดาชาวบ้านจึงพานกันขนานนามว่า "ภูสระดอกบัว" สืบมาจนทุกวันนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น